Pages

Sunday, August 16, 2020

ทางออกแก้ขัดแย้งบ้านเมือง ดับไฟม็อบนักศึกษา ก่อนลุกลามบานปลาย สายเกินแก้ - ไทยรัฐ

mungkinbelum.blogspot.com

จากสถานการณ์ม็อบชนม็อบที่อีกฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลและอีกฝ่ายอยู่ตรงกันข้ามรัฐบาล หวังว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองรุนแรงบานปลาย จนเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างในอดีต หนทางเดียวจะแก้ไขได้ทุกฝ่ายต้องหาทางออกร่วมกันในการหารือแบบสันติวิธี

สิ่งสำคัญในการจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตการณ์ความขัดแย้งนั้น รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวกับ "ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ว่า ต้องมีการพูดคุยหารือโดยใช้กลไกต่างๆ เริ่มจากประการแรกใช้กลไกรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 165 เปิดประชุมรัฐสภาเป็นการทั่วไป เพื่อหารือการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งส.ส.และส.ว.โดยไม่ลงมติเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนประการที่สอง ควรเปิดเวทีหารือกับนักศึกษา ซึ่งไม่ใช่เวทีที่ถูกสร้างโดยรัฐบาล หรือให้สภาพัฒน์จัดเวทีในการรับฟังที่อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการรับฟังความเห็นนักศึกษา และขณะเดียวกันส.ส.ต้องลงพื้นที่ในการรับฟังความเห็นนักศึกษาไปด้วย

ประการที่สาม การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ตามข้อเรียกร้อง ซึ่งวันนี้มีข้อเสนอโดยกรรมาธิการฯ ให้แก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการตั้ง ส.ส.ร. น่าจะลดความขัดแย้งในบ้านเมือง นำไปสู่การเมืองในระบบมากกว่าการเมืองบนท้องถนน และประการสุดท้าย ทุกฝ่ายต้องยึดหลักสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนปัจจัยที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายในบ้านเมือง ก็อาจเป็นไปได้หากมีความรุนแรงในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ว่าจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง และสิ่งสำคัญหากกติกาในรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้กระบวนการยอมรับเกิดยาก จากการยื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่ความอึมครึมก็อาจเป็นไปได้ หรือกรณีม็อบชนม็อบ หรือมวลชนชนมวลชน ขยายวงกว้างกลายเป็นภาพใหญ่ที่เรียกว่า "มวลชนาธิปไตย" เป็นปรากฏการณ์การใช้การเมืองแบบมวลชน จนเกิดการแสดงออกด้วยการใช้กำลัง เหมือนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ที่เคยเกิดขึ้น และจะกลับมาอีก ซึ่งจะจบลงด้วยการปะทะ และรัฐประหาร

“บทเรียนที่ผ่านมา จากเหตุพฤษภาทมิฬ ปี 35 ภายหลังเกิดการชุมนุม และมีการเปิดประชุมสภา แต่ท้ายสุดการประชุมสภาถูกปิด ทำให้ไม่สามารถหาทางออกได้ ในการใช้พื้นที่สภาแก้ปัญหา ทั้งๆ ที่เป็นกลไกหนึ่งในการตอบสนองมวลชน จนเกิดปัญหารุนแรงบานปลายในที่สุด”

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เป็นกังวล เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูล ข่าวสาร มีการสร้างวาทกรรมความเกลียดชังต่างๆ หรือใช้สื่อโซเชียล ทั้งฝั่งสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน มีทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม ทำให้เกิดการเร้าอารมณ์ในกลุ่มม็อบต่างๆ จนเกิดการปะทะกัน เพราะอย่าลืมว่าโลกออนไลน์ขณะนี้ มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น เรียกว่าเป็นสงครามแอร์ วอร์ (AIR WAR) กับกราวน์ วอร์ (GROUND WAR) ซึ่งต้องระมัดระวังให้มากๆ ในยุคโซเชียลมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ยิ่งมีอิทธิพลส่งผลให้เกิดความผันผวนทางการเมือง

“เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ สิ่งสำคัญที่สุดทุกฝ่ายต้องไม่ใช้ความรุนแรง ต้องเน้นสันติวิธี ต้องมีพื้นที่ในการพูดคุย โดยรัฐไม่ใช่คนจัดการ อาจให้สถาบันการศึกษาเข้ามาจัดการเรื่องหารือ และกลไกสำคัญ ต้องนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกติกาใหญ่ และเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน”

จากการประเมินสถานการณ์ "ม็อบ" ขณะนี้ น่าจะอยู่ระดับ 6 จาก 10 ต้องทำอย่างไรไม่ให้เข้าใกล้ความเสี่ยง และเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเฉพาะปัญหาม็อบชนม็อบ อีกอย่างขณะนี้เริ่มเห็นม็อบมีการบริหารจัดการได้ดีมากขึ้น เริ่มมีเครื่องมือต่างๆ และเริ่มมีทรัพยากรมาสนับสนุนการ "ชุมนุมนักศึกษา" แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่

ขณะที่การชุมนุมจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ และหลังจากนี้ไปจะมีการชุมนุมต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีกลไกเข้ามาแก้ไข ซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และหากผ่านไป 3 เดือนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เมื่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ออกมา หากมีการปิดกิจการมากขึ้น และมีคนตกงานมากขึ้น ทำให้คนเดือดร้อน ได้รับผลกระทบมากขึ้น อาจมาเป็นแนวร่วมกับนักศึกษาในลักษณะม็อบประชาชนก็เป็นไปได้ ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องควรเร่งรักษาสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้สายเกินไป.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"ต่างๆ" - Google News
August 16, 2020 at 05:26PM
https://ift.tt/31Z0w7o

ทางออกแก้ขัดแย้งบ้านเมือง ดับไฟม็อบนักศึกษา ก่อนลุกลามบานปลาย สายเกินแก้ - ไทยรัฐ
"ต่างๆ" - Google News
https://ift.tt/36O1zJu
Home To Blog

No comments:

Post a Comment