เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมก.ตร. และก.ต.ช. วานนี้ (30 ก.ค.) ว่า ยังไม่มีวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ พล.ต.ต. ขึ้นไปจนถึง รอง ผบ.ตร. กฎหมายยังให้เวลาแต่งตั้งก่อนวันที่ 31 ส.ค. ดังนั้นจึงยังมีเวลา ส่วนการประชุมก.ตร. และก.ต.ช.ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญสอบถามในเรื่องรายละเอียด กรณีที่ข้าราชตำรวจกระทำผิดทางวินัยต่างๆ ในที่ประชุมมีการรายงานเรื่องการไล่ออก ปลดออกข้าราชตำรวจ เฉพาะเดือนที่ผ่านมาทีทั้งสิ้น 45 เรื่อง ไล่ออก 19 เรื่อง ปลดออก 4 เรื่อง ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องการกักขังต่างๆ และนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ตรวจสอบในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีการลงโทษผู้กระทำความผิดทางวินัยไล่ออกจากราชการอย่างไรบ้าง ซึ่งสรุปได้ว่ามีการลงโทษไปแล้ว 134 ราย เป็นการไล่ออก 98 ราย ปลอดออก 27 ราย ให้ออกจากราชการ 5 ราย ให้ออกไว้ก่อน 4 ราย
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับชื่อที่ใช้สำหรับกองบัญชาการใหม่ ใช้ชื่อว่า กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ซึ่งเป็นการเอางานเดิมที่เคยมีอยู่ใน บก.ปอท. ประมาณร้อยละ 70 ถึง 80 มาอยู่ในบช.ใหม่ และการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี ออนไลน์ต่างๆ ที่ตามบก.สส.ภาคต่างๆ ก็ให้มาอยู่รวมในบช.นี้ ส่วนการตรวจสอบแหล่งที่มาของการกระทำผิดกฎหมายของสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งเคยอยู่ในสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศก็ให้มาอยู่ในบช.นี้ โดยสรุป บช.สอท. จะเป็นบช.บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการอาชญากรรมเทคโนโลยีโดยภาพรวมของประเทศ ส่วนหน่วยสำนักงานเทคโนโลยีและการสื่อสารที่มีอยู่เดิม จะเป็นหน่วยงานฝ่านอำนวยการ ดูแลระบบ crime ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ ดูแลระบบการเชื่อมโยงข้อมูลฝ่ายยริหาร
ส่วนบก.ปอท. จะรับภารกิจของบช.ก.ในงานความมั่นคงและกิจการพิเศษเป็นหลัก ขั้นตอนในการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องของตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่ต่ำกว่า พล.ต.ต.ลงไป ก.ตร.อนุมัติให้มี 1,989 อัตรา เป็นการตัดโอนจากหน่วยงานต่างๆ อีก 11 ตำแหน่ง ตั้งแต่ตำแหน่งผบก.ขึ้นไป จะประกอบด้วย ผบก.7 คน รอง ผบช. 3 คน และ ผบช.1 คน ซึ่งตามกฎหมายเมื่อก.ตร.อนุมัติต้องให้ก.ต.ช.เห็นชอบก่อน
ดังนั้นการประชุมก.ต.ช.ในวานนี้ มีมติเห็นชอบครบในเรื่องของตำแหน่ง และที่ผ่านมาครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา การจัดตั้งบช.ใหม่ เมื่อกระบวนขั้นตอนของกฎหมายผ่าน คาดว่าภายใน 1 เดือนต่อจากนี้ จะสามารถแต่งตั้งบุคลากรไปลงในตำแหน่งนั้นได้ โดยนายกรัฐมนตรีมีนโยบายว่าให้เน้นแต่งตั้งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถโดยตรง ด้านการสืบสวน สอบสวน คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งให้ครบคน เน้นการแต่งตั้งเป็นระยะตามความเหมาะสมของงาน.
"ต่างๆ" - Google News
July 31, 2020 at 06:08AM
https://ift.tt/39IbFwN
จัดทัพ'บช.สอท.'กำหนด11นายพล โอนกำลัง1989อัตรา - เดลีนีวส์
"ต่างๆ" - Google News
https://ift.tt/36O1zJu
Home To Blog
No comments:
Post a Comment